วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2558

การทำงานอย่างมืออาชีพ การขาย




การทำงานอย่างมืออาชีพ

ในการทำงานแต่ละวันของเอเจ้นท์อย่างฮัวซึ่งเป็นตัวแทนรับฝากขายคอนโด หรือเรียกง่ายๆว่า นายหน้า ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบทความเพื่อโฆษณา หรือโปรโมทอะไรสักอย่าง ก็จะต้องมีการหาข้อมูลต่างๆเยอะมากเพื่อใช้เขียนบทความแต่ละบทความ คราวนี้ก็ได้หาข้อมูลและคำศัพท์เพื่อใช้ให้ถูกต้องเลยได้เสิร์ชหาคำว่า "มือโปร" เป็น ภาษาอังกฤษ ไปๆมาๆ ก็เจอคำว่า "มืออาชีพ" ที่บล็อคๆนึง อ่านแล้วได้ให้ข้อคิดมาก เลยเอามาฝากเพื่อนๆ เผื่อได้ข้อคิดดีๆที่เป็นประโยชน์ได้บ้างค่ะ

era,era ขายบ้าน,อีอาร์เออ่อนนุข,,อีอาร์เอขายบ้าน,eraขายบ้าน,eraขายคอนโด,ขายที่ดิน,ซื้อบ้านera,ซื้อคอนโดera,ซื้อที่ดินera,realtor-ss,sasima era,
Sasima ERA Onnut

มืออาชีพ หลายคนนึกถึงคำภาษาอังกฤษที่ว่า Professional หรือ Professionalism บางคนนึกถึงคนประกอบอาชีพที่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพเป็นใบรับรองความรู้ความสามารถอะไรทำนองนั้น เช่น แพทย์ พยาบาล วิศวกร ทนายความ เป็นต้น

ไม่ว่าจะเป็นอาชีพใดล้วนต้องการความเป็นมืออาชีพทั้งสิ้น ซึ่งมีความหมายที่ลึกซึ้งและมากเกินกว่าใบประกอบวิชาชีพที่ได้มา ความเป็นมืออาชีพหรือทำงานอย่างมืออาชีพมันหมายถึงอะไร ผู้ที่ทำงานในอาชีพอื่น ๆ ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพจะเป็นมืออาชีพได้หรือไม่
สิ่งแรกของความเป็นมืออาชีพที่แตกต่างจากคนอื่นทั่วไปก็คือ การมองโลกในแง่ดี มองแบบเป็นบวก (Positive thinking) ซึ่งสะท้อนออกมาให้เห็นจากแววตา สีหน้า ท่าทาง คำพูด ความคิด และการแสดงออก

คนที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพจะประพฤติปฏิบัติในทางที่ตรงข้ามกัน บางองค์กรถึงขนาดระบุไว้ในค่านิยมขององค์กร (Core values) ถือเป็นสิ่งที่องค์กรต้องการและพนักงานทุกคนจะต้องทำให้ได้ ผมคิดว่าถ้ามีข้อนี้ข้อเดียว และสามารถทำได้ดีมีตัวชี้วัดที่ชัดเจนก็เพียงพอแล้ว
ลองพิจารณาคุณสมบัติความเป็นมืออาชีพและไม่เป็นมืออาชีพ และถ้าจะให้ดีลองประเมินตนเองดูว่า ได้ซักกี่ข้อของที่สรุปมาให้

ซึ่งยังอาจเพิ่มเติมสิ่งที่คุณคิดว่าใช่และไม่ใช่เพื่อให้สอดคล้องกับสาขาอาชีพหรือสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ทำอยู่ได้ ทั้งนี้ อาจเพิ่มเรื่องของจรรยาบรรณ หรือจริยธรรมทางธุรกิจเข้าไปด้วย คุณสมบัติของคนที่ทำงานแบบมืออาชีพ

·       ไม่ล้ำเส้น มืออาชีพระวังทั้งการพูด กิริยา ท่าทาง การเขียน และการลงมือทำงาน อีกทั้งจะไม่วิจารณ์ผู้อื่น และไม่ก้าวก้ายงานของผู้อื่น
·       คิดเองได้ ไม่ต้องให้เจ้านายสั่งไม่ต้องให้เพื่อนร่วมงานขอ ไม่ต้องมีปัญหาและไม่ต้องเกิดความจำเป็นขึ้นก่อน ต้องประเมินสถานการณ์ศึกษาข้อมูลแล้วคิดหาหนทางเพื่อสิ่งที่ดีกว่าเสมอ โดยมองความเป็นไปได้ และหาแนวทางใหม่
·       มีความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำหรือคำพูดใดของตนเอง จงยอมรับและจัดการกับผลที่ตามมา ทั้งผลโดยตรงและผลกระทบทางอ้อม ทั้งความดีและความชอบ และความผิดพลาด ไม่หาทางถ่ายเทภาระหรือปัญหาไปให้คนอื่น
·       รู้จักตัดสินใจ บ่อยครั้งที่คนทำงานต้องเผชิญกับการตัดสินใจในเวลาจำกัด ไม่สามารถหาข้อมูลมาช่วยได้ แต่มืออาชีพก็ไม่นับเป็นอุปสรรคเมื่อต้องตัดสินใจจะไม่ลังเล ไม่มัวแต่คิดอยู่จนช้าเกิน และไม่โยนการตัดสินใจไปให้คนอื่น
·       ให้เกียรติผู้อื่น ปฏิบัติตนตามมารยาททางธุรกิจและสังคมได้เสมอ มืออาชีพมีความนับถือตนเองมากเท่ากับที่นับถือผู้อื่นเพราะมองว่ามนุษย์มีศักดิ์ศรีและเกียรติแห่งความเป็นคนเท่ากัน
·       รักษาเกียรติในยามแพ้ ไม่ใช่เรื่องยากที่คนจะรักษาเกียรติและความสง่างามในยามที่คว้าชัยชนะไว้ได้ในกำมือ แต่ความพ่ายแพ้มักเผยให้เห็นบุคลิกอีกด้านหนึ่ง มืออาชีพที่แพ้จะไม่มีปฏิกิริยาทางลบกับผู้ชนะ ไม่โทษทั้งคนอื่นและตนเอง ไม่เกรี้ยวกราด เสียดสี หรือแสดงความผิดหวังอย่างรุนแรง ถึงจะเป็นการแพ้ครั้งยิ่งใหญ่
·       ยอมรับการเปลี่ยนแปลง มืออาชีพจะยอมรับได้ในเวลาอันสั้น ถึงแม้จะไม่เห็นด้วย ไม่แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงจะนำผลเช่นใดมาสู่การทำงาน มืออาชีพจะไม่ต่อต้าน แต่จะทำความเข้าใจในความจำเป็น มองข้อดีหากมีผลกระทบจะแจ้งให้ผู้รับผิดชอบทราบและหาทางแก้ไข
·       ความผิดพลาดและการขอโทษ จะไม่ขยายความผิดพลาดของคนอื่นให้ใหญ่ขึ้น ไม่ปิดบังหรือกลบเกลื่อนความผิดพลาดของตนเอง แต่จะมองด้วยทัศนคติที่ดี จะไม่พูดแก้ตัว แต่จะขอโทษและรับปากว่าจะไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก
·       มีความยืดหยุ่น ความยืดหยุ่นของมืออาชีพไม่ใช่การกลิ้งไปกลิ้งมาเพื่อจะเลี่ยงไม่ต้องทำงาน และไม่ใช่การพูดกลับไปกลับมา หรือเปลี่ยนใจได้รอบทิศหรือเพื่อผลประโยชน์ตนเอง แต่คือการไม่ยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งและปิดกั้นตนเองจากสิ่งอื่นเตรียมพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ทุกประการ
·       ไม่น่ารักก็ไม่เป็นไร ให้เกียรติผู้ร่วมงาน แต่จะไม่กังวลว่าคนอื่นจะปลาบปลื้มตนเองหรือไม่ คือไม่มัวแต่บริหารเสน่ห์ของตนเอง แต่จะทุ่มเทให้กับการทำงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย อาจไม่สามารถตามใจทุกคน หรือทำให้ทุกคนพอใจ
·       มนุษยธรรมกับธุรกิจ โลกแห่งธุรกิจจะต้องสร้างผลกำไรในรูปเงิน แข่งขันกันสูง ต้องยอมรับกติกาแล้วเรียนรู้ตามวันเวลา และประสบการณ์ อาจถูกมองว่าเลือดเย็น โหดร้าย แต่จริง ๆ แล้ว ต้องสร้างความสมดุลระหว่างงานกับคน
·       ศักยภาพสูงสุดของตนเอง มืออาชีพตระหนักถึงคุณค่าของการพัฒนาตนเองและเชื่อว่ามนุษย์เกิดมาเพื่อพัฒนาศักยภาพสูงสุดของตนเอง และช่วยพัฒนาสังคมไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

ถึงตรงนี้เราคงพอจำแนกแยกแยะออกระหว่างการทำงานแบบมืออาชีพ และการทำงานแบบวิชาชีพ เพราะว่าการทำงานแบบมืออาชีพสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกสาขาวิชาชีพทุกตำแหน่งหน้าที่การงานตั้งแต่ระดับปฏิบัติการจนถึงผู้บริหาร แต่การทำงานแบบวิชาชีพ คืออาชีพเฉพาะที่ผู้ปฏิบัติจะต้องได้รับการรับรองว่ามีความรู้ ความสามารถ ซึ่งแน่นอนคงพิสูจน์กันยากในเรื่องของสภาพจิตใจ ความเป็นมืออาชีพมันเป็นอะไรที่เหนือกว่าความรู้ความสามารถ แต่มันเป็นเรื่องของใจที่ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่และฝึกฝนเป็นพิเศษ

แต่ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้หรือทำได้ยากเริ่มต้นวันละข้อสองข้อไม่นานเราก็จะได้รับการยอมรับจากคนรอบข้างโดยไม่จำเป็นต้องมีเอกสารการรับรอง หรือให้บุคคลใด ๆ มายืนยันค้ำประกันให้แต่อย่างใด
สิ่งที่มักจะตามมาจากความเป็นมืออาชีพก็คือ ความไว้วางใจ (Trust)


ผู้เขียน: จำลักษณ์ ขุนพลแก้ว
จาก: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม 2551

Cr. คุณ รณฤทธิ์ Ok nation blog

พออ่านจนจบก็ทำให้ฮัวคิดได้ว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ในสาขาอาชีพอะไรก็ตามแต่ ไม่เว้นแม้แต่อาชีพนายหน้ารับฝากขายบ้านอย่างเรา การทำงานอย่างมืออาชีพก็คือจุดที่สูงที่สุดจุดหนึ่งที่เราควรพัฒนาศักยภาพไปให้ถึง ซึ่งเป็นการพัฒนาทักษะทุกด้าน ทั้งทางด้านร่างกาย ความคิด และสติปัญญา รวมทั้งศีลธรรม ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตัวเรา เพื่อนร่วมงาน และลูกค้าคนสำคัญ

era,era ขายบ้าน,อีอาร์เออ่อนนุข,,อีอาร์เอขายบ้าน,eraขายบ้าน,eraขายคอนโด,ขายที่ดิน,ซื้อบ้านera,ซื้อคอนโดera,ซื้อที่ดินera,realtor-ss,sasima era,
พรีเซ็นเตอร์ตัวจิ๋ว ที The Posh 12
สนใจชมห้องติดต่อได้ที่ Line sasimas หรือ 094-429-6299
++++++สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่++++++
ศศิมา (ฮัว) อีอาร์เอ อ่อนนุช
Mobile: 094-429-6299, 094-482-8664

วิธีการสร้างฐานลูกค้า เพื่อผลตอบแทนที่คุ้มค่า

Aug 
25
  • วิธีการสร้างฐานลูกค้า เพื่อผลตอบแทนที่คุ้มค่า

    thumbnail
    การมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น ทำให้ธุรกิจอยู่รอดและมีการขยายตัว สำหรับการชนะใจลูกค้า มีเทคนิคง่ายๆ ดังนี้ 1.เรื่องของวิธีการที่จะนำมาใช้ชี้บ่ง หรือระบุ ความต้องการของลูกค้า การให้ความสำคัญต่อการวิจัยตลาด ซึ่งการวิจัยตลาดเพื่อตรวจสอบหาความต้องการของลูกค้ายิ่งมีความสำคัญมากขึ้นในธุรกิจปัจจุบัน เนื่องจากผู้บริโภคจะมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและซับซ้อนมากขึ้น นอกจากนี้ ธุรกิจจะต้องคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ว่าควรจะมีทิศทาง หรือ การเปลี่ยนแปลงอย่างไรจะทำให้ธุรกิจของเราตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ไวกว่าปกติ 2.การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ซึ่งองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของการให้บริการในระหว่างการขาย ที่จะทำให้ลูกค้าได้ความประทับใจ เช่น การให้ข้อมูลสินค้าหรือบริการที่ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจซื้อ และอัธยาศัยที่ดีของพนักงานขาย ต้องเริ่มจากความพึงพอใจในการทำงานของพนักงาน พนักงานมีความต้องการที่จะทำงานให้บริษัทเพื่อสร้างความสำเร็จให้กับบริษัท การสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงาน  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสร้างบรรยากาศที่ดีในสถานที่ทำงาน การกระตุ้นและให้กำลังใจ ซึ่งสิ่งนี้ตอบความต้องการของลูกค้าได้อย่างเหนือความคาดหมาย 3.การสนองตอบที่มีความรวดเร็วกว่าคู่แข่ง ซึ่งจะทำได้โดยผู้บริหารจะต้องปรับวิธีการทำงานภายในให้มีความคล่องตัวมากขึ้น เพื่อหวังผลในการตอบสนองตลาดได้เร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้ธุรกิจได้เปรียบจากการเป็นคนแรกในตลาด 4.การใช้เครื่องมือทางการบริหารจัดการสมัยใหม่ การติดตามสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี การเปลี่ยนวิธีการทำงานจากการต้องทำบันทึกหรือทำเรื่องเสนอเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับลูกค้า 5.การนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ออกสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว สร้างนวัตกรรมที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าอย่างรัดกุม การสร้างความแปลกใหม่ให้กับลูกค้าและตลาดอาจใช้กลยุทธ์การปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้เกิดสินค้าใหม่ได้เร็วขึ้น 6.พัฒนาคุณภาพหรือปรับปรุงคุณภาพในบางเรื่องให้ดีขึ้น เช่น เพิ่มสี กลิ่น รส ที่แตกต่างไปจากสินค้าเดิม ให้เด่นกว่าคู่แข่ง หรือทำสินค้าในแบบที่ลูกค้าชอบเฉพาะตัว การสร้างสิ่งดึงดูดใจลูกค้าเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ในความเป็นจริงนั้นถึงแม้จะใช้ระยะเวลานาน แต่กลับได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าเลยทีเดียว
Jul 
17
  • กลยุทธ์วิธีในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ให้กับมาใช้บริการเรื่อยๆ

    thumbnail
    การทำธุรกิจที่ต้องสัมพันธ์กับลูกค้า ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ล้วนเป็นความรู้สึกที่มีต่อสินค้าในแง่บวกหรือลบเสมอ ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าเพิ่ม ทำให้ธุรกิจของเราอยู่เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ดังนั้นเราควรทำอย่างไรให้ลูกค้าประทับใจ และกลับมาซื้อผลิตภัณฑ์ของเราอีกเรื่อยๆ 1.การสำรวจเส้นทาง ลำดับเหตุการณ์ตามที่ลูกค้าจะได้เจอเมื่อพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากเรา ความสะดวกสบาย ระดับอารมณ์ สิ่งเหล่านี้ช่วยบ่งบอกความต้องการของลูกค้า 2.สำรวจความคาดหวัง ด้วยการไปทดลองเป็นลูกค้าเอง หรือไปเดินตามร้านสะดวกซื้อ หรือศูนย์การค้าเพื่อดูว่าธุรกิจใหญ่ๆ นั้นลงรายละเอียดเรื่องความคาดหวังของลูกค้ากันขนาดไหน หรือถ้าจะให้ดีกว่านั้น เราอาจต้องลองดูด้วยว่าบริษัทคู่แข่งของเราต้อนรับและตอบรับลูกค้ากันอย่างไรบ้าง 3.พื้นที่แสดงความคิดเห็น ธุรกิจหลายเจ้า ไม่ชอบที่จะให้มีในส่วนนี้เพราะคิดว่ามันไม่จำเป็นและอาจจะส่งผลเสียให้กับธุรกิจได้หากผู้บริโภคแสดงความคิดเห็นที่เป็นด้านมืดหรือจุดบกพร่องของสินค้าและบริการของบริษัทออกมา ซึ่งหากผู้ประกอบการมีใจที่เปิดกว้างพอจะทราบว่าจุดนี้เป็นวิธีการตรวจวัดกระแสตอบรับที่ดีที่สุดและผู้ประกอบการยังสามารถนำข้อมูลที่ได้รับมาไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจต่อได้อีกด้วย ดังนั้นผู้ประกอบการควรที่จะเปิดพื้นที่ส่วนหนึ่งภายในเว็บไซต์ให้ผู้บริโภคแสดงความคิดเห็นกัน 4.สังเกตพฤติกรรม เป็นการลงรายละเอียดการกระทำที่จำเป็นต้องเฉพาะเจาะจง เพื่อให้เกิดประสบการณ์ที่ดีตามความคาดหวังในข้อ 2 ลงไปให้มากที่สุด ทั้งทางด้านเทคนิคในการทำงาน ไปจนถึงสคริปต์และภาษาที่ใช้ เช่น แบบฟอร์มกระชับ ไม่ยืดเยื้อ ถามเท่าที่จำเป็น 5.รอผลตอบรับจากลูกค้า การดูแลเอาใจใส่ลูกค้าอย่างสมเหตุสมผลจำเป็นต้องถูกปลูกฝังอยู่ในใจกลางหลักขององค์กร ต้องใส่ใจต่อความเห็นลูกค้าอย่างต่อเนื่อง การรับฟังความคิดเห็นทุกด้าน และช่วยกันประมวลเพื่อนำไปปรับปรุงขั้นตอนที่ 3 จะทำให้ลูกค้ารู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ การดึงดูดลูกค้าใช้กับมาใช้บริการธุรกิจของเราซ้ำย่อมเกิดผลดีต่อยอดไปเรื่อยๆ หากเราใส่ใจให้บริการ และคอยสังเกตความรู้สึกของลูกค้าอยู่เสมอ ลูกค้าไม่มีทางหนีไปไหนแน่นอน
Jun 
6
  • การสร้างความพึงพอใจและดึงดูดใจลูกค้าให้กลับมาใช้บริการอีก

    thumbnail
    การสร้างภาพลักษณ์ในด้านต่างๆที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ คือ หากมีภาพลักษณ์ที่ดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านการแต่งกาย การพูดจา การตอบกลับอย่างรวดเร็ว และการติดตามประเมินผล ล้วนแล้วแต่ที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ ดังนั้นการทำธุกิจจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าโดย 1.สร้างสรรค์ website ให้ดูดีเสมอ ผู้คนจะตัดสินเว็บของคุณอย่างรวดเร็วและตกลงใจไม่ว่าพวกเขาจะอยากให้โอกาสคุณมาเป็นบริษัทหรือเป็นนายหน้าของพวกเขาหรือไม่ ด้วยการจัดวางและรูปภาพที่ดึงดูด พร้อมทั้งข้อมูลการติดต่อที่จัดวางบน home page ที่ชัดเจนเก็จะทำให้ website นั้นเริ่มต้นได้ดีทีเดียว 2.ถามลูกค้าว่าอยากให้ตอบกลับด้วยวิธีไหน อย่างเช่น ใช้ E-mail หรือ วิธีการโทร เพราะการติดต่อผู้คนด้วยวิธีการที่พวกเขาพึงพอใจ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะเข้าถึงลูกค้าได้อย่างสมเหตุสมผล 3.ตอบกลับให้เร็ว เพราะคนส่วนใหญ่ทุกวันนี้คาดหวังคำตอบจากสิ่งที่พวกเขาถามไว้กลับมาภายในกรอบเวลาที่สมเหตุสมผลไม่ว่าจะทาง E-mail หรือ โทรศัพท์ ที่สำคัญคือควรตอบกลับในช่วงเวลาที่ลูกค้าสะดวก โดยทำให้เห็นว่าสามารถที่จะดูแลพวกเขาเหมือนลูกค้าและดูแลในส่วนที่ลูกค้าต้องการจริงๆได้ 4.ศึกษาลูกค้า เพราะการศึกษาลูกค้าและจัดการความคาดหวังของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น การมีข้อเท็จจริง เอกสาร ข่าวสาร Blog จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจว่ามาจากไหน 5.คิดในมุมมองเดียวกับลูกค้า โดยควรแสดงให้เห็นว่าได้อยู่ข้างเดียวกับลูกค้า ด้วยการฟังคำถามของพวกเขาและสิ่งที่พวกเขาชอบ 6.การสำรวจและติดตามผล เพราะเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าที่สามารถทำการสำรวจลูกค้าได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ติดต่อ จากนั้นค้นหาว่าลูกค้าชอบหรือไม่ชอบอะไรในสินค้าโดยวิเคราะห์คำตอบของลูกค้าเพื่อหาว่าอะไรที่สามารถปรับปรุงได้ และควรจะพัฒนาอย่างไร ทั้งนี้จากการสำรวจที่ได้จะช่วยให้ตัดสินใจเกี่ยวกับธุรกิจตนเองได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น ดังนั้น การที่จะสร้างความพึงพอใจและดึงดูดใจแก่ลูกค้าให้กลับมาใช้บริการอีกนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาข้อมูลของลูกค้ารวมทั้งจะต้องมีการบริการที่ดีดังที่กล่าวมาเพียงเท่านี้ก็จะสามารถทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว  
Apr 
26
  • การวางแผนเพื่อดึงลูกค้าให้กลับมาหาธุรกิจของเราเรื่อยๆ

    thumbnail
    การวางแผนเพื่อดึงลูกค้าให้กลับมาหาธุรกิจของเราเรื่อยๆ นั้นหัวใจหลักก็อยู่ที่ความสุขของลูกค้านั่นเอง และนี่คือ 5 วิธีการทำให้เกิดการซื้อซ้ำ 1.ขยันใช้ข้อมูล ข้อมูลคือทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของบริษัท อย่าแค่ไปเก็บข้อมูลเพื่อนำเข้าแฟ้มเฉยๆ แต่ให้เอามาวิเคราะห์และประมวลผล หาทุกโอกาสที่สามารถทำได้เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ธุรกิจ 2.สื่อสารหาลูกค้าเรื่อยๆ และทำให้น่าสนใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าขาดการติดต่อเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นวันสำคัญ เช่น วันขึ้นปีใหม่ วันวาเลนไทน์ หรือ วันเกิดของลูกค้า เราสามารถใช้โอกาสเหล่านี้ติดต่อไปยังลูกค้าเพื่ออวยพรหรือเสนอโปรโมชั่นพิเศษ ต้องคอยเตือนให้พวกเขารู้ว่าพวกเขาเป็นลูกค้าคนพิเศษของเราอยู่เสมอ ซึ่งจะทำให้ลูกค้านึกถึงเราและเลือกซื้อสินค้าจากเราเป็นแบรนด์แรกๆ 3. ทำให้ลูกค้าซื้อได้อย่างสะดวกและซื้อได้เรื่อยๆ ลองทำตัวเป็นลูกค้าแล้วทดลองใช้สินค้าหรือบริการตามช่องทางปกติเพื่อดูว่ามีอุปสรรคอะไรในการซื้อหรือไม่ ลองคิดว่าหากเราเป็นลูกค้า เราอยากให้เปลี่ยนอะไรบ้าง หรืออาจลองถามลูกค้าเลยก็ได้เพื่อดูว่าจะการซื้อขายให้ง่ายขึ้นได้อย่างไร 4.สัญญาแล้วทำให้ได้ คำสัญญาหรือการเสนอโปรโมชั่นใดควรทำให้ได้จริง ธุรกิจของเราจะต้องดำเนินไปอย่างที่เคยประกาศไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม เช่น บอกว่าสะสมแต้มครบแล้วจะได้ของสมนาคุณ ก็ต้องมีของให้กับลูกค้าจริงๆ สิ่งเล็กน้อยเหล่านี้จะสะสมเป็นความรู้สึกของลูกค้าต่อธุรกิจของเราในที่สุด กฎก็คือ สัญญาน้อยๆ เข้าไว้ แต่เมื่อถึงเวลาให้จึงค่อยให้มากๆ ลูกค้าจะประทับใจแน่นอน 5. ทดลองและวัดผลทุกอย่าง ทำการทดลองและวัดผลทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการลงโฆษณาหรือการทำการตลาดต่างๆ ตัวเลขสถิติเหล่านั้นต้องนำมาคำนวณเพื่อวัดประสิทธิภาพสิ่งที่ทำไปให้ได้ เพราะเมื่อเรารู้ค่า ROI (ค่าตอบแทนจากการลงทุน) เราก็จะสามารถรู้ได้ทันทีว่าแผนการตลาดนั้นคุ้มค่าเงินที่ลงไปหรือไม่ หากไม่คุ้ม เราจะได้ไหวตัวและแก้เกมได้ทันนั่นเอง ท้ายที่สุดแล้วคนเราก็เลือกซื้อสินค้าหรือบริการจากธุรกิจที่ชอบ และภักดีกับแบรนด์ที่รู้สึกดีหรือผูกพันด้วย คนจำนวนมากยินดีจ่ายมากกว่าเพื่อสิ่งของหรือบริการที่ดีกว่า เพราะฉะนั้นการแข่งขันเรื่องราคาจึงไม่ใช่คำตอบเสมอไป อย่าลืมหาวิธีพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจของเราและลูกค้าอยู่เสมอ เพราะคงไม่มีใครอยากเสียลูกค้าให้คู่แข่งอย่างแน่นอน ไม่แม้เพียงคนเดียวก็ตาม
Mar 
27
  • การสร้างความประทับใจผ่านการบริการ เพื่อดึงดูดใจลูกค้า

    thumbnail
    ในการทำธุรกิจปัจจุบันนี้มีการแข่งขันเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆผู้ประกอบการต่างก็สร้างจุดแข็งของตนออกมาต่อสู้ซึ่งสิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยให้ครองใจลูกค้าได้คือ การบริการอันยอดเยี่ยมหากลูกค้าประทับใจการบริการจนกลับมาใช้บริการอีกและบอกต่อความประทับใจนี้ไปยังกลุ่มเพื่อนๆ นั่นหมายถึงความสำเร็จในการรักษาฐานลูกค้าเดิมและยังช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ได้อีกด้วย ผู้ประกอบการควรจะมีการพัฒนาการให้บริการลูกค้าให้ดีเยี่ยม ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการต่างๆดังนี้ 1.พัฒนาบุคลิกภาพพนักงานทั้งบุคลิกภาพและภาพลักษณ์ภายนอกของพนักงาน เพราะบุคลิกภาพที่ดีจะสร้างความประทับใจแรกแก่ลูกค้าได้ เช่น การยิ้มแย้มและรับฟังสิ่งที่ลูกค้าพูด ในด้านภาพลักษณ์ภายนอกของพนักงาน เช่นการแต่งกายเรียบร้อยถูกกาลเทศะและสะอาดสะอ้าน 2.การจริงใจในการบริการ เป็นอีกสิ่งที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม โดยผู้ประกอบการควรเน้นให้พนักงานบริการลูกค้าด้วยความสุภาพ พูดจาไพเราะ ให้ความสนใจกับลูกค้าเป็นสำคัญ ให้ข้อมูลตรงไปตรงมา ที่สำคัญพนักงานขายควรบอกได้ว่าลูกค้าต้องการสินค้าหรือบริการชนิดใด เพราะบางครั้งตัวลูกค้าอาจยังไม่แน่ใจหรือไม่รู้ว่าตนเองต้องการสินค้านั้นจริงหรือไม่ อาจเพราะข้อมูลต่างๆ มากเกินไป ทั้งนี้การบริการอย่างเป็นมิตรจะช่วยให้การชนะใจลูกค้าเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น 3.การบริการหลังการขาย เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าเกิดความผูกพันกับแบรนด์สินค้าของผู้ประกอบการมากขึ้นได้ อย่างเช่น มี call centerไว้คอยบริการลูกค้า โดยเน้นการบริการอย่างรวดเร็วและแก้ปัญหาได้ถูกจุด 4.มีการปรับปรุงและพัฒนาสินค้าอยู่เสมอ เพื่อให้การบริการถูกใจและตรงความต้องการของลูกค้า ทำให้ลูกค้าประทับใจมากยิ่งขึ้น5.ต้องไม่ขาดการติดต่อกับลูกค้า ทั้งนี้ผู้ประกอบการอาจเลือกใช้การแจ้งข่าวสารต่างๆ เป็นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า หรือการส่งข้อความทางโทรศัพท์และอีเมล์ เป็นต้น แต่ก็ไม่ควรส่งเยอะจนเกินไปเพราะจะทำให้ลูกค้ารู้สึกรำคาญได้ ดังนั้นการบริการทีดีเยี่ยมนั้นจะช่วยสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้มากขึ้นและความประทับใจในการดึงดูดลูกค้าเก่าได้เป็นอย่างดีและยังได้ลูกค้าใหม่ให้เข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสทางการค้าได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว