วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ขายให้ประเทศ จีน วันนี้ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 ยอดสั่งมาแรงวันนี้

ประวัติ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 วันนี้พวกเราพร้อมที่จะไปส่งที่ประเทศ จีนแล้ววันนี้

               ประวัติ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5

มีจำนวน 2500 ไร่ จำนวนจำกัด

สนใจสั่งซื้อ สินค้า ที่ ดร.สมัย เหมมั่น T 094-8979-365
maikub01@yahoo.com  โครงการสหกร์การเกษตร ไทยสามพรานและโครงการ สหกรณ์การเกษตร ไทยองค์รักษ์


                             กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5

  เป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานเป็นอย่างมากทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่ เนื่องจาก มีเนื้อนุ่มเหนียว และมีกลิ่นหอมแรงกว่ากล้วยอื่นๆ จึงทำให้นิยมปลูก และส่งออกไปยังต่างประเทศจำนวนมากในแต่ละปี โดยมีตลาดหลักที่ประเทศจีน ทางยุโรป และอเมริกา

.advertisement
กล้วยหอมในประเทศไทยมีอยู่ 2 ชนิด คือ กล้วยหอมทอง และกล้วยหอมเขียว ซึ่งมีลักษณะผลคล้ายกัน และขนาดใกล้เคียงกัน แต่จะแตกต่างกันที่ลักษณะของลำต้น และกล้วยหอมเขียวจะสุกรับประทานได้ในขณะที่ผลยังเขียว ส่วนกล้วยหอมทองจะเริ่มสุก และรับประทานได้เมื่อผลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง    กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5  ดร.สมัย เหมมั่น นักวิจัยธุรกิจการตลาด ได้ค้นพบ และ จัดเป็นสายพันธ์ที่ส่งออกได้ดี ตอบสนองลูกค้าได้ดี ลูกค้าชื่นชอบ มีผลใหญ่หอมหวานมัน มีรสชาติหวานติด อมเปรี้ยวที่ลิ้นนิดหน่อย รับประทาน ช่วยระบายได้ดี  ลักษณะของผล มีขนาดใหญ่ ประมาณกว้าง4- 5 ซม.  และยาวมาก มีขนาดใหญ่กว่ากล้วยหอมที่จำหน่าย ในร้านสะดวกซื้อทั่วไป ผลกล้วยในร้านสะดวกซื้อผลจะเล็ก มาก 
   กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 ผลใหญ่มากถึงสองเท่า ของกล้วย ในร้านสะดวกซื้อ
จุดสังเกตุ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 จะปลูกได้ผลดี ในดินที่มีความเปรี้ยว มีกรดในดินได้ดี

พบในพื้นที่ จ.นครนายก  จ.สระบุรี จ.ปทุมธานี จ.พระนครกรุงศรีอยุธยา และได้ตั้งเป็น ชมรมสมาชิก และรับสมัครสมาชิคเพื่อส่งเสริมการลงทุน เพื่อ การค้ากล้วยเผื่อส่งออก และจำหน่ายพันธ์ กล้วยสายพันธ์นี้ จะกำหนดยอดสมาชิกเพื่อประกันราคารับซื้อในกลุ่มเท่านั้น ผ่านตัวแทน
ที่ ดร.สมัย เหมมั่น ตั้งให้เท่านั้นและประกันราคาในกลุ่มเท่านั้น  ถ้าเป็นสายพันธ์อื่นราคาจะปรับหรือลดนั้น จะอยู่ในภาวะตลาดของกล้วยหอมทั่วไป
                                               
    สนใจติดต่อ ดร.สมัย เหมมั่น ผู้จำจำหน่าย และรับซื้อ   กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 เพื่อส่งออกมีสัญญาการซื้อร่วงหน้าและประกันราคาพื้ชผล มาจำนวนจำกัด สนใจ เมลมา  maikyb01@yahoo.com t.094-846-3435     ดร.สมัย เหมมั่น  ผู้จำหน่ายและรับซื้อกล้วยเพื่อส่งออกต่างประเทศ 
                                                 

                                กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5

  
                         ดร.สมัย เหมมั่น รับรอง ชิมแล้วครับ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5

                                   กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5
                                   

                  มันหนักมาก เลยน่ะ    กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5



                               กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5
                 
                  มันยาวใหญ่ มาก หนักมากดูหน้าสิ หนักจริงๆ    กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5



    กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5







กล้วยหอมทองไทย

972

กล้วยหอม เป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานเป็นอย่างมากทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่ เนื่องจาก มีเนื้อนุ่มเหนียว และมีกลิ่นหอมแรงกว่ากล้วยอื่นๆ จึงทำให้นิยมปลูก และส่งออกไปยังต่างประเทศจำนวนมากในแต่ละปี โดยมีตลาดหลักที่ประเทศทางยุโรป และอเมริกา
advertisement
กล้วยหอมในประเทศไทยมีอยู่ 2 ชนิด คือ กล้วยหอมทอง และกล้วยหอมเขียว ซึ่งมีลักษณะผลคล้ายกัน และขนาดใกล้เคียงกัน แต่จะแตกต่างกันที่ลักษณะของลำต้น และกล้วยหอมเขียวจะสุกรับประทานได้ในขณะที่ผลยังเขียว ส่วนกล้วยหอมทองจะเริ่มสุก และรับประทานได้เมื่อผลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แต่โดยทั่วไปเมื่อนึกถึงกล้วยหอมมักจะเข้าใจเฉพาะกล้วยหอมทองเป็นส่วนใหญ่
อนุกรมวิธาน
• Order : Scitamineae
• Family : Musaceae
• Genera : Musa
• Section : Eumusa
• ชื่อวิทยาศาสตร์ :
– Musa Sapientum
– Musa (โคโมโซม AAA group)
• ชื่อสามัญ :
– Gros Michel
– Hom Thong Bana
• ชื่อท้องถิ่น :
– กล้วยหอม
– กล้วยหอมทอง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ราก
รากกล้วยหอมทอง เป็นแบบ adventitious root ที่แตกออกจากหน่อ ซึ่งหน่อจะแตกออกจากเหง้า รากมีความยาวได้มากกว่า 5 เมตร แทงลึกลงดินได้ถึง 5-7.5 เมตร
ลำต้น
กล้วยหอมทองมีลำต้นจริงที่เป็นหัวหรือเหง้าอยู่ใต้ดิน มีลำต้นเทียมที่อยู่เหนือดินสูงประมาณ 2.5-3.5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 20 เซนติเมตร กาบลำต้นด้านนอกมีสีเขียว และมีแถบประสีดำ ด้านในสีเขียวอ่อน และมีเส้นลายสีชมพู
ใบ
ใบกล้วยหอมทองเป็นใบเดี่ยว เป็นแบบขนาน มีก้านใบที่มีร่องค่อนข้างกว้าง และมีปีก เส้นกลางใบมีสีเขียว ใบยาวได้มากถึง 3 เมตร
ดอก/ปลี
ดอก หรือ ปลี จะแทงออกจากหยวกตรงกลางปลายยอด เมื่อแทงออกช่วงแรกจะตั้งตรง และค่อยๆโค้งงอลงด้านล่าง ก้านเครือมีขนอ่อนปกคลุม ปลีมีรูปไข่ ค่อนข้างแหลมยาว และมีปลายแหลม มีกาบหุ้มด้านนอกสีแดงอมม่วง ด้านในสีแดงซีด ปลีกล้วยหอมทองมีความยาวประมาณ 1-1.5 เมตร
ผล
กล้วยหอมทองเครือหนึ่งมีประมาณ 6 –10 หวี แต่ละหวีมี 10 – 16 ผล หรือมากกว่าหากดินมีความสมบูรณ์ ผลกว้าง 3 – 4 เซนติเมตร และยาว 21 – 25 เซนติเมตร ปลายผลมีจุก เปลือกบางแต่หนากว่ากล้วยไข่ ผลดิบมีสีเขียว ผลสุกมีสีเหลืองทอง แต่จุกที่ปลายผลยังเป็นสีเขียว แล้วค่อยเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองเมื่อสุกมาก เนื้อสีเหลืองเข้ม มีรสหวาน และมีกลิ่นหอมแรง
กล้วยหอม
ประโยชน์ของกล้วยหอม
กล้วยหอมที่มีการปลูกในปัจจุบัน ทั้งกล้วยหอมทอง และกล้วยหอมเขียว จะมีจุดประสงค์หลักเพื่อการรับประทานผลสุก แต่ทั้งนี้ ก็มีการใช้ประโยชน์จากส่วนต่างๆในหลายด้านด้วยกัน ได้แก่
– ใบตองนำมาห่อขนมของหวานหรือใช้ห่ออาหารทำห่อหมก
– หยวกกล้วยจากต้นกล้วยอ่อนนำมาประกอบอาหาร รวมไปถึงปลีกล้วยหลังการตัดปลีที่ใช้ทำอาหารได้หลายเมนู และสามารถจำหน่ายเป็นรายได้ส่วนหนึ่งได้
– ก้าน และใบ จากการตัดแต่งใบนำมาใช้เลี้ยงสัตว์ โค กระบือ
– หน่อ และลำต้น หลังเก็บเกี่ยวหรือการตัดทิ้งนำมาเลี้ยงหมู
– เปลือกกล้วยหรือผลกล้วยเน่า รวมถึงลำต้น ใช้ทำน้ำหมักชีวภาพ
– กาบลำต้น ฉีกเป็นเส้นๆ ใช้สำหรับรัดสิ่งของแทนเชือก
คุณค่าทางโภชนาการของกล้วยหอมทองสุก (100 กรัม)
– ความชื้น 77.19 กรัม
– ไขมัน 0.73 กรัม
– โปรตีน (N x 6.25) 1.82 กรัม
– คาร์โบไฮเดรต 18.42 กรัม
– เถ้า 0.65 กรัม
– แคลเซียม 14.27 มิลลิกรัม
– ฟอสฟอรัส 21.09 มิลลิกรัม
– เหล็ก 8.71 มิลลิกรัม
– บีตา-แคโรทีน 589.40 มิลลิกรัม
– กรดแอสคอบิค 11.06 มิลลิกรัม
ที่มา : เบญจมาศ (2545)(1)
การปลูกกล้วยหอมทอง
การเตรียมหน่อพันธุ์
หน่อพันธุ์ที่ใช้ปลูกควรอยู่ในระยะที่เรียกว่า หน่อใบดาบ มีใบแคบ 2-3 ใบ มีความยาวหน่อ 60-120 เซนติเมตร ควรเป็นหน่อที่สมบูรณ์ ไม่มีรอยโรคหรือแมลงกัดกิน หากซื้อตามฟาร์มกล้วย ควรตรวจสอบประวัติการระบาดของโรคหรือด้วงแมลงก่อน
การเตรียมดิน และหลุมปลูก
การเตรียมดิน หากเป็นพื้นที่ที่ปลูกครั้งแรกให้ไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 30 เซนติเมตร พร้อมกำจัดวัชพืช และตากดินทิ้งไว้ประมาณ 7–10 วัน หลังจากนั้น หว่านโรยด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 2–4 ตัน/ไร่ แล้วไถพรวนดินอีกรอบ หากเป็นพื้นที่เดิมให้หว่านโรยด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยได้เลย แล้วไถพรวนดินกลบ
ทำการขุดหลุมปลูกให้ลึก กว้าง และยาว ประมาณ 45-50 เซนติเมตร มีระยะห่างระหว่างหลุมที่ 2.50×2.50 เมตร ซึ่งจะได้ประมาณ 500 หลุม/ไร่ เมื่อเตรียมหลุมเสร็จให้ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 5 กิโลกรัม/หลุม และปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 200 กรัม/หลุม พร้อมเกลี่ยดินผสม โดยให้ระดับดินสูงขึ้นจนเหลือความลึกของหลุมประมาณ 15-30 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับความสูงของต้นพันธุ์
ขั้นตอนการปลูก
ให้ตั้งหน่อพันธุ์บริเวณตรงกลางหลุม โดยให้หันรอยแผลของหน่อไปในทิศตะวันตก เพราะเครือกล้วยจะแทงออก และห้อยไปในทิศตรงกันข้ามกับรอยแผลที่ตัดจากต้นแม่ ทั้งนี้ ให้หันหน่อพันธุ์ทุกหลุมในทิศเดียวกัน เพื่อง่ายต่อการจัดการ
เมื่อวางหน่อพันธุ์แล้วจึงค่อยเกลี่ยดินกลบ โดยให้ดินกลบส่วนเหง้าสูงประมาณ 15-30 เซนติเมตร แล้ววางฟางข้าวปิดรอบโคนต้น
การให้น้ำ
ในฤดูฝนไม่จำเป็นต้องให้น้ำหากฝนตกสม่ำเสมอ แต่หากฝนทิ้งช่วงจนหน้าดินแห้ง ควรสูบน้ำเข้าแปลงเป็นระยะ และในหน้าแล้งจำเป็นต้องสูบน้ำเข้าแปลงอย่างสม่ำเสมอ โดยสูบน้ำเป็นประจำเมื่อหน้าดินที่ระดับ 5-10 เซนติเมตร เริ่มแห้ง
การใส่ปุ๋ย
• ปุ๋ยคอก ให้ปุ๋ยอินทรีย์ประเภทปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก อัตราการใส่ปุ๋ย 3 – 5 กิโลกรัม/ต้น/ครั้ง หรือ ปุ๋ยเคมี อัตราการใส่ปุ๋ย 1 กิโลกรัม/ต้น/ครั้ง โดยใส่ปุ๋ยหลังปลูก 1 เดือน และครั้งที่ 2 ในเดือนที่ 5 หลังปลูก หรือในช่วงก่อนกล้วยใกล้ออกปลี 2-3 เดือน
• ปุ๋ยเคมี
–  ใส่ปุ๋ยเคมีครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 หลังจากปลูก 1 และ 3 เดือน ตามลำดับ สูตรปุ๋ย 15-15-15 อัตรา 150-250 กรัม/ต้น
– ใส่ปุ๋ยเคมีครั้งที่ 3 และครั้งที่ 4 หลังจากปลูก 5 และ 7 เดือน สูตรปุ๋ย 12-12-24 อัตรา 150-250 กรัม/ต้น
การกำจัดวัชพืช
การกำจัดวัชพืชทำได้โดยการใช้จอบถากรอบโคนต้น ควรทำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง นอกจากนั้น เกษตรกรอาจใช้วิธีการไถกลบรอบโคนต้น
สวนกล้วยหอมทอง
การตัดแต่งหน่อ
หลังปลูกกล้วยแล้ว 3-4 เดือน ต้นกล้วยจะเริ่มแตกหน่อใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจำเป็นต้องคอยตัดหน่อทิ้งให้เหลือ 2 หน่อ โดยให้หน่อที่แรกมีอายุห่างจากหน่อที่ 2 ประมาณ 2-3 เดือน
การตัดหน่อกล้วยไว้สำหรับปีต่อไป
หลังการเก็บผลกล้วยต้นแม่แล้ว ให้คงเหลือหน่อใต้ดินที่มีลำต้นโพล่จากดินแล้วประมาณประมาณ 10 นิ้ว จำนวนประมาณ 2 หน่อ โดยให้อยู่ในตำแหน่งต่างทิศหรือห่างกัน แต่หากระยะปลูกชิดกันมาก เช่น 2×2 เมตร ให้คงเหลือจำนวนหน่อเดียว ซึ่งจะรวมกับต้นกล้วยเก่าแล้วประมาณ 3-4 ต้น โดยแต่ละต้นจะมีอายุต่างกันประมาณ 2-3 เดือน
การตัดแต่งใบ
การตัดแต่งใบ โดยเฉพาะใบแห้งหรือใบแก่ออกจะช่วยลดการเกิดโรค และแมลง รวมถึงทำให้แสงแดดส่องถึงใบกล้วยทุกใบได้ดี ซึ่งควรตัดแต่งใบเป็นประจำทุกเดือน โดยให้ตัดแต่งใบเหลือประมาณต้นละ 7 – 12 ใบ
การออกปลี
หลังปลูกกล้วย 6-8 เดือน ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของต้น ซึ่งช่วงนี้ กล้วยจะเริ่มแทงปลีแล้ว โดยสังเกตได้จากการแทงใบกล้วยใบสุดท้ายจะมีขนาดสั้น และเล็กมาก ซึ่งเรียกว่า“ใบธง” หลังจากนั้น กล้วยจะเริ่มแทงปลีออกมา ซึ่งจากระยะเริ่มแทงปลีจนถึงปลีบานแล้วจะใช้เวลาประมาณ 14 วัน หลังจากปลีบานแล้ว 2-3 วัน หรือ มองเห็นผลมีขนาดสม่ำเสมอกันแล้ว หรือ เรียกหวีนั้นว่า “หวีตีนเต่า” จึงให้ตัดปลีออกได้ โดยหวีที่ต่ำกว่าหวีตีนเต่าจะมีขนาดผลเล็ก ผลไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเมื่อเริ่มเห็นหวีลักษณะนี้ก็เริ่มตัดปลีได้ โดยตัดในตำแหน่งที่ตำกว่าหวีตีนเต่าลงมา 1 หวี เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้ผลในหวีอื่นๆเติบโตช้า และผลไม่สม่ำเสมอได้
การค้ำยัน
การทำค้ำยันจะเริ่มทำหลังจากตัดปลีออกแล้ว ด้วยการใช้ไม้ที่มีง่ามหรือใช้ไม้ไผ่ตีตะปูประกอบกัน บริเวณปลายไม้ แล้วถ่างแยกเป็นง่ามใช้ค้ำยันบริเวณลำต้นก่อนถึงก้านเครือ
การหุ้มเครือ และตัดใบธง
การหุ้มเครือเป็นการหุ้มด้วยผ้าพลาสติก แบบเปิดด้านล่างไว้ ซึ่งจะทำหลังการตัดปลีแล้วประมาณ 25-30 วัน ทั้งนี้ เครือกล้วยที่มีการหุ้มเครือจะได้ผลกล้วยที่มีผิวสวย ไม่มีรอยแมลงทำลาย  ส่วนการตัดใบธง จะตัดเพื่อไม่ให้ใบมาเสียดสีกับผลกล้วย เพราะอาจทำให้ผลมีรอยหรือเกิดโรคเชื้อราได้ โดยจะเริ่มตัดเมื่อใบธงเริ่มหัก
การเก็บผลผลิต
กล้วยหอม หลังจากการปลูกแล้วประมาณ 10-11 เดือน จะเริ่มเก็บเครือได้ โดยมีระยะหลังปลูกถึงแทงปลี 7-8 เดือน และหลังจากแทงปลีจนเก็บเครือได้ 70-80 วัน โดย 1 เครือ จะมีหวีประมาณ 6 –10 หวี และ 1 หวี มีประมาณ 10 – 16 ผล หรือมากกว่า หากดินมีความสมบูรณ์
หลังจากตัดปลี ประมาณ 70-80 วัน จะเริ่มเก็บเครือหรือผลได้ ทั้งนี้ หากเป็นการส่งจำหน่าย จำเป็นต้องเก็บก่อนผลสุกหรือผลเหลือง ประมาณ 3 วัน ซึ่งเวลานิยมเก็บในช่วงเช้าตรู่
ระยะการสุกของกล้วยหอม
– ระยะที่ 1 เปลือกเขียว (ดิบ 100%) ผลแข็ง ไม่มีการสุก
– ระยะที่ 2 เปลือกเขียว (ดิบ 95%) เริ่มสุก และเปลี่ยนเป็นสีเหลือง (5%)
– ระยะที่ 3 เปลือกเขียว (ดิบ 70%) เริ่มสุก และเปลี่ยนเป็นสีเหลืองมากขึ้น (30%)
– ระยะที่ 4 เปลือกเขียว (ดิบ 30%) เริ่มสุก และเปลี่ยนเป็นสีเหลืองมากขึ้น (70%)
– ระยะที่ 5 เปลือกเหลือง มีการสุกมาก (95%) ปลายยังเป็นสีเขียว (ดิบ 5%)
– ระยะที่ 6 ทั้งผลมีสีเหลือง มีการสุกเต็มที่ (100%)
– ระยะที่ 7 ผิวสีเหลือง และเริ่มมีจุดสีน้ำตาล (สุกเต็มที่ มีกลิ่นหอม และเริ่มเปลี่ยนแปลง)
– ระยะที่ 8 ผิวสีเหลือง และมีจุดสีน้ำตาลมากขึ้น (สุกมากเกินไป เนื้อเริ่มอ่อนเละ และมีกลิ่นแรง)
เอกสารอ้างอิง
1. เบญจมาศ ศิลาย้อย. 2545. กล้วย. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพฯ.

ความคิดเห็น

  1. ประวัติ กล้วยหอททองไทย เบอร์ 5
    drsamaihemman.blogspot.com
    ประวัติ กล้วยหอททองไทย เบอร์ 5 กล้วยหอมทองไทย 972 แบ่งปันบนเฟสบุ๊ค ทวีตบนทวิตเตอร์ กล้วยหอม เป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานเป็นอย่างมากทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่ เนื่องจาก มีเนื้อนุ่ม
    ตอบลบ
  2. ประวัติ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5
    drsamaihemman.blogspot.com
    ประวัติ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 เป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานเป็นอย่างมากทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่ เนื่องจาก มีเนื้อนุ่มเหนียว และมีกลิ่นหอมแรงกว่ากล้วยอื่นๆ จึงทำ
    ตอบลบ
  3. กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5

    เป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานเป็นอย่างมากทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่ เนื่องจาก มีเนื้อนุ่มเหนียว และมีกลิ่นหอมแรงกว่ากล้วยอื่นๆ จึงทำให้นิยมปลูก และส่งออกไปยังต่างประเทศจำนวนมากในแต่ละปี โดยมีตลาดหลักที่ประเทศจีน ทางยุโรป และอเมริกา

    .advertisement
    กล้วยหอมในประเทศไทยมีอยู่ 2 ชนิด คือ กล้วยหอมทอง และกล้วยหอมเขียว ซึ่งมีลักษณะผลคล้ายกัน และขนาดใกล้เคียงกัน แต่จะแตกต่างกันที่ลักษณะของลำต้น และกล้วยหอมเขียวจะสุกรับประทานได้ในขณะที่ผลยังเขียว ส่วนกล้วยหอมทองจะเริ่มสุก และรับประทานได้เมื่อผลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 ดร.สมัย เหมมั่น นักวิจัยธุรกิจการตลาด ได้ค้นพบ และ จัดเป็นสายพันธ์ที่ส่งออกได้ดี ตอบสนองลูกค้าได้ดี ลูกค้าชื่นชอบ มีผลใหญ่หอมหวานมัน มีรสชาติหวานติด อมเปรี้ยวที่ลิ้นนิดหน่อย รับประทาน ช่วยระบายได้ดี ลักษณะของผล มีขนาดใหญ่ ประมาณกว้าง4- 5 ซม. และยาวมาก มีขนาดใหญ่กว่ากล้วยหอมที่จำหน่าย ในร้าสะดวกซื้อทั่วไป ผลกล้วยในร้านสะดวกซื้อผลจะเล็ก มาก
    กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 ผลใหญ่มากถึงสองเท่า ของกล้วย ในร้านสะดวกซื้อ
    จุดสังเกตุ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 จะปลูกได้ผลดี ในดินที่มีความเปรี้ยว มีกรดในดินได้ดี

    พบในพื้นที่ จ.นครนายก จ.สระบุรี จ.ปทุมธานี จ.พระนครกรุงศรีอยุธยา และได้ตั้งเป็น ชมรมสมาชิก และรับสมัครสมาชิคเพื่อส่งเสริมการลงทุน เพื่อ การค้ากล้วยเผื่อส่งออก และจำหน่ายพันธ์ กล้วยสายพันธ์นี้ จะกำหนดยอดสมาชิกเพื่อประกันราคารับซื้อในกลุ่มเท่านั้น ผ่านตัวแทน
    ที่ ดร.สมัย เหมมั่น ตั้งให้เท่านั้นและประกันราคาในกลุ่มเท่านั้น ถ้าเป็นสายพันธ์อื่นราคาจะปรับหรือลดนั้น จะอยู่ในภาวะตลาดของกล้วยหอมทั่วไป

    สนใจติดต่อ ดร.สมัย เหมมั่น ผู้จำจำหน่าย และรับซื้อ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 เพื่อส่งออกมีสัญญาการซื้อร่วงหน้าและประกันราคาพื้ชผล มาจำนวนจำกัด สนใจ เมลมา maikyb01@yahoo.com t.094-846-3435 ดร.สมัย เหมมั่น ผู้จำหน่ายและรับซื้อกล้วยเพื่อส่งออกต่างประเทศ


    กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5
    ตอบลบ
  4. กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5


    เป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานเป็นอย่างมากทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่ เนื่องจาก มีเนื้อนุ่มเหนียว และมีกลิ่นหอมแรงกว่ากล้วยอื่นๆ จึงทำให้นิยมปลูก และส่งออกไปยังต่างประเทศจำนวนมากในแต่ละปี โดยมีตลาดหลักที่ประเทศจีน ทางยุโรป และอเมริกา


    .advertisement

    กล้วยหอมในประเทศไทยมีอยู่ 2 ชนิด คือ กล้วยหอมทอง และกล้วยหอมเขียว ซึ่งมีลักษณะผลคล้ายกัน และขนาดใกล้เคียงกัน แต่จะแตกต่างกันที่ลักษณะของลำต้น และกล้วยหอมเขียวจะสุกรับประทานได้ในขณะที่ผลยังเขียว ส่วนกล้วยหอมทองจะเริ่มสุก และรับประทานได้เมื่อผลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 ดร.สมัย เหมมั่น นักวิจัยธุรกิจการตลาด ได้ค้นพบ และ จัดเป็นสายพันธ์ที่ส่งออกได้ดี ตอบสนองลูกค้าได้ดี ลูกค้าชื่นชอบ มีผลใหญ่หอมหวานมัน มีรสชาติหวานติด อมเปรี้ยวที่ลิ้นนิดหน่อย รับประทาน ช่วยระบายได้ดี ลักษณะของผล มีขนาดใหญ่ ประมาณกว้าง4- 5 ซม. และยาวมาก มีขนาดใหญ่กว่ากล้วยหอมที่จำหน่าย ในร้านสะดวกซื้อทั่วไป ผลกล้วยในร้านสะดวกซื้อผลจะเล็ก มาก

    กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 ผลใหญ่มากถึงสองเท่า ของกล้วย ในร้านสะดวกซื้อ

    จุดสังเกตุ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 จะปลูกได้ผลดี ในดินที่มีความเปรี้ยว มีกรดในดินได้ดี


    พบในพื้นที่ จ.นครนายก จ.สระบุรี จ.ปทุมธานี จ.พระนครกรุงศรีอยุธยา และได้ตั้งเป็น ชมรมสมาชิก และรับสมัครสมาชิคเพื่อส่งเสริมการลงทุน เพื่อ การค้ากล้วยเผื่อส่งออก และจำหน่ายพันธ์ กล้วยสายพันธ์นี้ จะกำหนดยอดสมาชิกเพื่อประกันราคารับซื้อในกลุ่มเท่านั้น ผ่านตัวแทน

    ที่ ดร.สมัย เหมมั่น ตั้งให้เท่านั้นและประกันราคาในกลุ่มเท่านั้น ถ้าเป็นสายพันธ์อื่นราคาจะปรับหรือลดนั้น จะอยู่ในภาวะตลาดของกล้วยหอมทั่วไป



    สนใจติดต่อ ดร.สมัย เหมมั่น ผู้จำจำหน่าย และรับซื้อ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 เพื่อส่งออกมีสัญญาการซื้อร่วงหน้าและประกันราคาพื้ชผล มาจำนวนจำกัด สนใจ เมลมา maikyb01@yahoo.com t.094-846-3435 ดร.สมัย เหมมั่น ผู้จำหน่ายและรับซื้อกล้วยเพื่อส่งออกต่างประเทศ

ประวัติ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 วันนี้พวกเราพร้อมที่จะไปส่งที่ประเทศ จีนแล้ววันนี้

               ประวัติ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5

มีจำนวน 2500 ไร่ จำนวนจำกัด

สนใจสั่งซื้อ สินค้า ที่ ดร.สมัย เหมมั่น T 094-8979-365
maikub01@yahoo.com  โครงการสหกร์การเกษตร ไทยสามพรานและโครงการ สหกรณ์การเกษตร ไทยองค์รักษ์


                             กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5

  เป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานเป็นอย่างมากทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่ เนื่องจาก มีเนื้อนุ่มเหนียว และมีกลิ่นหอมแรงกว่ากล้วยอื่นๆ จึงทำให้นิยมปลูก และส่งออกไปยังต่างประเทศจำนวนมากในแต่ละปี โดยมีตลาดหลักที่ประเทศจีน ทางยุโรป และอเมริกา

.advertisement
กล้วยหอมในประเทศไทยมีอยู่ 2 ชนิด คือ กล้วยหอมทอง และกล้วยหอมเขียว ซึ่งมีลักษณะผลคล้ายกัน และขนาดใกล้เคียงกัน แต่จะแตกต่างกันที่ลักษณะของลำต้น และกล้วยหอมเขียวจะสุกรับประทานได้ในขณะที่ผลยังเขียว ส่วนกล้วยหอมทองจะเริ่มสุก และรับประทานได้เมื่อผลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง    กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5  ดร.สมัย เหมมั่น นักวิจัยธุรกิจการตลาด ได้ค้นพบ และ จัดเป็นสายพันธ์ที่ส่งออกได้ดี ตอบสนองลูกค้าได้ดี ลูกค้าชื่นชอบ มีผลใหญ่หอมหวานมัน มีรสชาติหวานติด อมเปรี้ยวที่ลิ้นนิดหน่อย รับประทาน ช่วยระบายได้ดี  ลักษณะของผล มีขนาดใหญ่ ประมาณกว้าง4- 5 ซม.  และยาวมาก มีขนาดใหญ่กว่ากล้วยหอมที่จำหน่าย ในร้านสะดวกซื้อทั่วไป ผลกล้วยในร้านสะดวกซื้อผลจะเล็ก มาก 
   กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 ผลใหญ่มากถึงสองเท่า ของกล้วย ในร้านสะดวกซื้อ
จุดสังเกตุ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 จะปลูกได้ผลดี ในดินที่มีความเปรี้ยว มีกรดในดินได้ดี

พบในพื้นที่ จ.นครนายก  จ.สระบุรี จ.ปทุมธานี จ.พระนครกรุงศรีอยุธยา และได้ตั้งเป็น ชมรมสมาชิก และรับสมัครสมาชิคเพื่อส่งเสริมการลงทุน เพื่อ การค้ากล้วยเผื่อส่งออก และจำหน่ายพันธ์ กล้วยสายพันธ์นี้ จะกำหนดยอดสมาชิกเพื่อประกันราคารับซื้อในกลุ่มเท่านั้น ผ่านตัวแทน
ที่ ดร.สมัย เหมมั่น ตั้งให้เท่านั้นและประกันราคาในกลุ่มเท่านั้น  ถ้าเป็นสายพันธ์อื่นราคาจะปรับหรือลดนั้น จะอยู่ในภาวะตลาดของกล้วยหอมทั่วไป
                                               
    สนใจติดต่อ ดร.สมัย เหมมั่น ผู้จำจำหน่าย และรับซื้อ   กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 เพื่อส่งออกมีสัญญาการซื้อร่วงหน้าและประกันราคาพื้ชผล มาจำนวนจำกัด สนใจ เมลมา  maikyb01@yahoo.com t.094-846-3435     ดร.สมัย เหมมั่น  ผู้จำหน่ายและรับซื้อกล้วยเพื่อส่งออกต่างประเทศ 
                                                 

                                กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5

  
                         ดร.สมัย เหมมั่น รับรอง ชิมแล้วครับ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5

                                   กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5
                                    

                  มันหนักมาก เลยน่ะ    กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5



                               กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5
                 
                  มันยาวใหญ่ มาก หนักมากดูหน้าสิ หนักจริงๆ    กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5



    กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5







กล้วยหอมทองไทย

972

กล้วยหอม เป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานเป็นอย่างมากทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่ เนื่องจาก มีเนื้อนุ่มเหนียว และมีกลิ่นหอมแรงกว่ากล้วยอื่นๆ จึงทำให้นิยมปลูก และส่งออกไปยังต่างประเทศจำนวนมากในแต่ละปี โดยมีตลาดหลักที่ประเทศทางยุโรป และอเมริกา
advertisement
กล้วยหอมในประเทศไทยมีอยู่ 2 ชนิด คือ กล้วยหอมทอง และกล้วยหอมเขียว ซึ่งมีลักษณะผลคล้ายกัน และขนาดใกล้เคียงกัน แต่จะแตกต่างกันที่ลักษณะของลำต้น และกล้วยหอมเขียวจะสุกรับประทานได้ในขณะที่ผลยังเขียว ส่วนกล้วยหอมทองจะเริ่มสุก และรับประทานได้เมื่อผลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แต่โดยทั่วไปเมื่อนึกถึงกล้วยหอมมักจะเข้าใจเฉพาะกล้วยหอมทองเป็นส่วนใหญ่
อนุกรมวิธาน
• Order : Scitamineae
• Family : Musaceae
• Genera : Musa
• Section : Eumusa
• ชื่อวิทยาศาสตร์ :
– Musa Sapientum
– Musa (โคโมโซม AAA group)
• ชื่อสามัญ :
– Gros Michel
– Hom Thong Bana
• ชื่อท้องถิ่น :
– กล้วยหอม
– กล้วยหอมทอง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ราก
รากกล้วยหอมทอง เป็นแบบ adventitious root ที่แตกออกจากหน่อ ซึ่งหน่อจะแตกออกจากเหง้า รากมีความยาวได้มากกว่า 5 เมตร แทงลึกลงดินได้ถึง 5-7.5 เมตร
ลำต้น
กล้วยหอมทองมีลำต้นจริงที่เป็นหัวหรือเหง้าอยู่ใต้ดิน มีลำต้นเทียมที่อยู่เหนือดินสูงประมาณ 2.5-3.5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 20 เซนติเมตร กาบลำต้นด้านนอกมีสีเขียว และมีแถบประสีดำ ด้านในสีเขียวอ่อน และมีเส้นลายสีชมพู
ใบ
ใบกล้วยหอมทองเป็นใบเดี่ยว เป็นแบบขนาน มีก้านใบที่มีร่องค่อนข้างกว้าง และมีปีก เส้นกลางใบมีสีเขียว ใบยาวได้มากถึง 3 เมตร
ดอก/ปลี
ดอก หรือ ปลี จะแทงออกจากหยวกตรงกลางปลายยอด เมื่อแทงออกช่วงแรกจะตั้งตรง และค่อยๆโค้งงอลงด้านล่าง ก้านเครือมีขนอ่อนปกคลุม ปลีมีรูปไข่ ค่อนข้างแหลมยาว และมีปลายแหลม มีกาบหุ้มด้านนอกสีแดงอมม่วง ด้านในสีแดงซีด ปลีกล้วยหอมทองมีความยาวประมาณ 1-1.5 เมตร
ผล
กล้วยหอมทองเครือหนึ่งมีประมาณ 6 –10 หวี แต่ละหวีมี 10 – 16 ผล หรือมากกว่าหากดินมีความสมบูรณ์ ผลกว้าง 3 – 4 เซนติเมตร และยาว 21 – 25 เซนติเมตร ปลายผลมีจุก เปลือกบางแต่หนากว่ากล้วยไข่ ผลดิบมีสีเขียว ผลสุกมีสีเหลืองทอง แต่จุกที่ปลายผลยังเป็นสีเขียว แล้วค่อยเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองเมื่อสุกมาก เนื้อสีเหลืองเข้ม มีรสหวาน และมีกลิ่นหอมแรง
กล้วยหอม
ประโยชน์ของกล้วยหอม
กล้วยหอมที่มีการปลูกในปัจจุบัน ทั้งกล้วยหอมทอง และกล้วยหอมเขียว จะมีจุดประสงค์หลักเพื่อการรับประทานผลสุก แต่ทั้งนี้ ก็มีการใช้ประโยชน์จากส่วนต่างๆในหลายด้านด้วยกัน ได้แก่
– ใบตองนำมาห่อขนมของหวานหรือใช้ห่ออาหารทำห่อหมก
– หยวกกล้วยจากต้นกล้วยอ่อนนำมาประกอบอาหาร รวมไปถึงปลีกล้วยหลังการตัดปลีที่ใช้ทำอาหารได้หลายเมนู และสามารถจำหน่ายเป็นรายได้ส่วนหนึ่งได้
– ก้าน และใบ จากการตัดแต่งใบนำมาใช้เลี้ยงสัตว์ โค กระบือ
– หน่อ และลำต้น หลังเก็บเกี่ยวหรือการตัดทิ้งนำมาเลี้ยงหมู
– เปลือกกล้วยหรือผลกล้วยเน่า รวมถึงลำต้น ใช้ทำน้ำหมักชีวภาพ
– กาบลำต้น ฉีกเป็นเส้นๆ ใช้สำหรับรัดสิ่งของแทนเชือก
คุณค่าทางโภชนาการของกล้วยหอมทองสุก (100 กรัม)
– ความชื้น 77.19 กรัม
– ไขมัน 0.73 กรัม
– โปรตีน (N x 6.25) 1.82 กรัม
– คาร์โบไฮเดรต 18.42 กรัม
– เถ้า 0.65 กรัม
– แคลเซียม 14.27 มิลลิกรัม
– ฟอสฟอรัส 21.09 มิลลิกรัม
– เหล็ก 8.71 มิลลิกรัม
– บีตา-แคโรทีน 589.40 มิลลิกรัม
– กรดแอสคอบิค 11.06 มิลลิกรัม
ที่มา : เบญจมาศ (2545)(1)
การปลูกกล้วยหอมทอง
การเตรียมหน่อพันธุ์
หน่อพันธุ์ที่ใช้ปลูกควรอยู่ในระยะที่เรียกว่า หน่อใบดาบ มีใบแคบ 2-3 ใบ มีความยาวหน่อ 60-120 เซนติเมตร ควรเป็นหน่อที่สมบูรณ์ ไม่มีรอยโรคหรือแมลงกัดกิน หากซื้อตามฟาร์มกล้วย ควรตรวจสอบประวัติการระบาดของโรคหรือด้วงแมลงก่อน
การเตรียมดิน และหลุมปลูก
การเตรียมดิน หากเป็นพื้นที่ที่ปลูกครั้งแรกให้ไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 30 เซนติเมตร พร้อมกำจัดวัชพืช และตากดินทิ้งไว้ประมาณ 7–10 วัน หลังจากนั้น หว่านโรยด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 2–4 ตัน/ไร่ แล้วไถพรวนดินอีกรอบ หากเป็นพื้นที่เดิมให้หว่านโรยด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยได้เลย แล้วไถพรวนดินกลบ
ทำการขุดหลุมปลูกให้ลึก กว้าง และยาว ประมาณ 45-50 เซนติเมตร มีระยะห่างระหว่างหลุมที่ 2.50×2.50 เมตร ซึ่งจะได้ประมาณ 500 หลุม/ไร่ เมื่อเตรียมหลุมเสร็จให้ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 5 กิโลกรัม/หลุม และปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 200 กรัม/หลุม พร้อมเกลี่ยดินผสม โดยให้ระดับดินสูงขึ้นจนเหลือความลึกของหลุมประมาณ 15-30 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับความสูงของต้นพันธุ์
ขั้นตอนการปลูก
ให้ตั้งหน่อพันธุ์บริเวณตรงกลางหลุม โดยให้หันรอยแผลของหน่อไปในทิศตะวันตก เพราะเครือกล้วยจะแทงออก และห้อยไปในทิศตรงกันข้ามกับรอยแผลที่ตัดจากต้นแม่ ทั้งนี้ ให้หันหน่อพันธุ์ทุกหลุมในทิศเดียวกัน เพื่อง่ายต่อการจัดการ
เมื่อวางหน่อพันธุ์แล้วจึงค่อยเกลี่ยดินกลบ โดยให้ดินกลบส่วนเหง้าสูงประมาณ 15-30 เซนติเมตร แล้ววางฟางข้าวปิดรอบโคนต้น
การให้น้ำ
ในฤดูฝนไม่จำเป็นต้องให้น้ำหากฝนตกสม่ำเสมอ แต่หากฝนทิ้งช่วงจนหน้าดินแห้ง ควรสูบน้ำเข้าแปลงเป็นระยะ และในหน้าแล้งจำเป็นต้องสูบน้ำเข้าแปลงอย่างสม่ำเสมอ โดยสูบน้ำเป็นประจำเมื่อหน้าดินที่ระดับ 5-10 เซนติเมตร เริ่มแห้ง
การใส่ปุ๋ย
• ปุ๋ยคอก ให้ปุ๋ยอินทรีย์ประเภทปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก อัตราการใส่ปุ๋ย 3 – 5 กิโลกรัม/ต้น/ครั้ง หรือ ปุ๋ยเคมี อัตราการใส่ปุ๋ย 1 กิโลกรัม/ต้น/ครั้ง โดยใส่ปุ๋ยหลังปลูก 1 เดือน และครั้งที่ 2 ในเดือนที่ 5 หลังปลูก หรือในช่วงก่อนกล้วยใกล้ออกปลี 2-3 เดือน
• ปุ๋ยเคมี
–  ใส่ปุ๋ยเคมีครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 หลังจากปลูก 1 และ 3 เดือน ตามลำดับ สูตรปุ๋ย 15-15-15 อัตรา 150-250 กรัม/ต้น
– ใส่ปุ๋ยเคมีครั้งที่ 3 และครั้งที่ 4 หลังจากปลูก 5 และ 7 เดือน สูตรปุ๋ย 12-12-24 อัตรา 150-250 กรัม/ต้น
การกำจัดวัชพืช
การกำจัดวัชพืชทำได้โดยการใช้จอบถากรอบโคนต้น ควรทำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง นอกจากนั้น เกษตรกรอาจใช้วิธีการไถกลบรอบโคนต้น
สวนกล้วยหอมทอง
การตัดแต่งหน่อ
หลังปลูกกล้วยแล้ว 3-4 เดือน ต้นกล้วยจะเริ่มแตกหน่อใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจำเป็นต้องคอยตัดหน่อทิ้งให้เหลือ 2 หน่อ โดยให้หน่อที่แรกมีอายุห่างจากหน่อที่ 2 ประมาณ 2-3 เดือน
การตัดหน่อกล้วยไว้สำหรับปีต่อไป
หลังการเก็บผลกล้วยต้นแม่แล้ว ให้คงเหลือหน่อใต้ดินที่มีลำต้นโพล่จากดินแล้วประมาณประมาณ 10 นิ้ว จำนวนประมาณ 2 หน่อ โดยให้อยู่ในตำแหน่งต่างทิศหรือห่างกัน แต่หากระยะปลูกชิดกันมาก เช่น 2×2 เมตร ให้คงเหลือจำนวนหน่อเดียว ซึ่งจะรวมกับต้นกล้วยเก่าแล้วประมาณ 3-4 ต้น โดยแต่ละต้นจะมีอายุต่างกันประมาณ 2-3 เดือน
การตัดแต่งใบ
การตัดแต่งใบ โดยเฉพาะใบแห้งหรือใบแก่ออกจะช่วยลดการเกิดโรค และแมลง รวมถึงทำให้แสงแดดส่องถึงใบกล้วยทุกใบได้ดี ซึ่งควรตัดแต่งใบเป็นประจำทุกเดือน โดยให้ตัดแต่งใบเหลือประมาณต้นละ 7 – 12 ใบ
การออกปลี
หลังปลูกกล้วย 6-8 เดือน ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของต้น ซึ่งช่วงนี้ กล้วยจะเริ่มแทงปลีแล้ว โดยสังเกตได้จากการแทงใบกล้วยใบสุดท้ายจะมีขนาดสั้น และเล็กมาก ซึ่งเรียกว่า“ใบธง” หลังจากนั้น กล้วยจะเริ่มแทงปลีออกมา ซึ่งจากระยะเริ่มแทงปลีจนถึงปลีบานแล้วจะใช้เวลาประมาณ 14 วัน หลังจากปลีบานแล้ว 2-3 วัน หรือ มองเห็นผลมีขนาดสม่ำเสมอกันแล้ว หรือ เรียกหวีนั้นว่า “หวีตีนเต่า” จึงให้ตัดปลีออกได้ โดยหวีที่ต่ำกว่าหวีตีนเต่าจะมีขนาดผลเล็ก ผลไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเมื่อเริ่มเห็นหวีลักษณะนี้ก็เริ่มตัดปลีได้ โดยตัดในตำแหน่งที่ตำกว่าหวีตีนเต่าลงมา 1 หวี เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้ผลในหวีอื่นๆเติบโตช้า และผลไม่สม่ำเสมอได้
การค้ำยัน
การทำค้ำยันจะเริ่มทำหลังจากตัดปลีออกแล้ว ด้วยการใช้ไม้ที่มีง่ามหรือใช้ไม้ไผ่ตีตะปูประกอบกัน บริเวณปลายไม้ แล้วถ่างแยกเป็นง่ามใช้ค้ำยันบริเวณลำต้นก่อนถึงก้านเครือ
การหุ้มเครือ และตัดใบธง
การหุ้มเครือเป็นการหุ้มด้วยผ้าพลาสติก แบบเปิดด้านล่างไว้ ซึ่งจะทำหลังการตัดปลีแล้วประมาณ 25-30 วัน ทั้งนี้ เครือกล้วยที่มีการหุ้มเครือจะได้ผลกล้วยที่มีผิวสวย ไม่มีรอยแมลงทำลาย  ส่วนการตัดใบธง จะตัดเพื่อไม่ให้ใบมาเสียดสีกับผลกล้วย เพราะอาจทำให้ผลมีรอยหรือเกิดโรคเชื้อราได้ โดยจะเริ่มตัดเมื่อใบธงเริ่มหัก
การเก็บผลผลิต
กล้วยหอม หลังจากการปลูกแล้วประมาณ 10-11 เดือน จะเริ่มเก็บเครือได้ โดยมีระยะหลังปลูกถึงแทงปลี 7-8 เดือน และหลังจากแทงปลีจนเก็บเครือได้ 70-80 วัน โดย 1 เครือ จะมีหวีประมาณ 6 –10 หวี และ 1 หวี มีประมาณ 10 – 16 ผล หรือมากกว่า หากดินมีความสมบูรณ์
หลังจากตัดปลี ประมาณ 70-80 วัน จะเริ่มเก็บเครือหรือผลได้ ทั้งนี้ หากเป็นการส่งจำหน่าย จำเป็นต้องเก็บก่อนผลสุกหรือผลเหลือง ประมาณ 3 วัน ซึ่งเวลานิยมเก็บในช่วงเช้าตรู่
ระยะการสุกของกล้วยหอม
– ระยะที่ 1 เปลือกเขียว (ดิบ 100%) ผลแข็ง ไม่มีการสุก
– ระยะที่ 2 เปลือกเขียว (ดิบ 95%) เริ่มสุก และเปลี่ยนเป็นสีเหลือง (5%)
– ระยะที่ 3 เปลือกเขียว (ดิบ 70%) เริ่มสุก และเปลี่ยนเป็นสีเหลืองมากขึ้น (30%)
– ระยะที่ 4 เปลือกเขียว (ดิบ 30%) เริ่มสุก และเปลี่ยนเป็นสีเหลืองมากขึ้น (70%)
– ระยะที่ 5 เปลือกเหลือง มีการสุกมาก (95%) ปลายยังเป็นสีเขียว (ดิบ 5%)
– ระยะที่ 6 ทั้งผลมีสีเหลือง มีการสุกเต็มที่ (100%)
– ระยะที่ 7 ผิวสีเหลือง และเริ่มมีจุดสีน้ำตาล (สุกเต็มที่ มีกลิ่นหอม และเริ่มเปลี่ยนแปลง)
– ระยะที่ 8 ผิวสีเหลือง และมีจุดสีน้ำตาลมากขึ้น (สุกมากเกินไป เนื้อเริ่มอ่อนเละ และมีกลิ่นแรง)
เอกสารอ้างอิง
1. เบญจมาศ ศิลาย้อย. 2545. กล้วย. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพฯ.

ความคิดเห็น

  1. ประวัติ กล้วยหอททองไทย เบอร์ 5
    drsamaihemman.blogspot.com
    ประวัติ กล้วยหอททองไทย เบอร์ 5 กล้วยหอมทองไทย 972 แบ่งปันบนเฟสบุ๊ค ทวีตบนทวิตเตอร์ กล้วยหอม เป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานเป็นอย่างมากทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่ เนื่องจาก มีเนื้อนุ่ม
    ตอบลบ
  2. ประวัติ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5
    drsamaihemman.blogspot.com
    ประวัติ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 เป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานเป็นอย่างมากทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่ เนื่องจาก มีเนื้อนุ่มเหนียว และมีกลิ่นหอมแรงกว่ากล้วยอื่นๆ จึงทำ
    ตอบลบ
  3. กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5

    เป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานเป็นอย่างมากทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่ เนื่องจาก มีเนื้อนุ่มเหนียว และมีกลิ่นหอมแรงกว่ากล้วยอื่นๆ จึงทำให้นิยมปลูก และส่งออกไปยังต่างประเทศจำนวนมากในแต่ละปี โดยมีตลาดหลักที่ประเทศจีน ทางยุโรป และอเมริกา

    .advertisement
    กล้วยหอมในประเทศไทยมีอยู่ 2 ชนิด คือ กล้วยหอมทอง และกล้วยหอมเขียว ซึ่งมีลักษณะผลคล้ายกัน และขนาดใกล้เคียงกัน แต่จะแตกต่างกันที่ลักษณะของลำต้น และกล้วยหอมเขียวจะสุกรับประทานได้ในขณะที่ผลยังเขียว ส่วนกล้วยหอมทองจะเริ่มสุก และรับประทานได้เมื่อผลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 ดร.สมัย เหมมั่น นักวิจัยธุรกิจการตลาด ได้ค้นพบ และ จัดเป็นสายพันธ์ที่ส่งออกได้ดี ตอบสนองลูกค้าได้ดี ลูกค้าชื่นชอบ มีผลใหญ่หอมหวานมัน มีรสชาติหวานติด อมเปรี้ยวที่ลิ้นนิดหน่อย รับประทาน ช่วยระบายได้ดี ลักษณะของผล มีขนาดใหญ่ ประมาณกว้าง4- 5 ซม. และยาวมาก มีขนาดใหญ่กว่ากล้วยหอมที่จำหน่าย ในร้าสะดวกซื้อทั่วไป ผลกล้วยในร้านสะดวกซื้อผลจะเล็ก มาก
    กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 ผลใหญ่มากถึงสองเท่า ของกล้วย ในร้านสะดวกซื้อ
    จุดสังเกตุ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 จะปลูกได้ผลดี ในดินที่มีความเปรี้ยว มีกรดในดินได้ดี

    พบในพื้นที่ จ.นครนายก จ.สระบุรี จ.ปทุมธานี จ.พระนครกรุงศรีอยุธยา และได้ตั้งเป็น ชมรมสมาชิก และรับสมัครสมาชิคเพื่อส่งเสริมการลงทุน เพื่อ การค้ากล้วยเผื่อส่งออก และจำหน่ายพันธ์ กล้วยสายพันธ์นี้ จะกำหนดยอดสมาชิกเพื่อประกันราคารับซื้อในกลุ่มเท่านั้น ผ่านตัวแทน
    ที่ ดร.สมัย เหมมั่น ตั้งให้เท่านั้นและประกันราคาในกลุ่มเท่านั้น ถ้าเป็นสายพันธ์อื่นราคาจะปรับหรือลดนั้น จะอยู่ในภาวะตลาดของกล้วยหอมทั่วไป

    สนใจติดต่อ ดร.สมัย เหมมั่น ผู้จำจำหน่าย และรับซื้อ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 เพื่อส่งออกมีสัญญาการซื้อร่วงหน้าและประกันราคาพื้ชผล มาจำนวนจำกัด สนใจ เมลมา maikyb01@yahoo.com t.094-846-3435 ดร.สมัย เหมมั่น ผู้จำหน่ายและรับซื้อกล้วยเพื่อส่งออกต่างประเทศ


    กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5
    ตอบลบ
  4. กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5


    เป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานเป็นอย่างมากทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่ เนื่องจาก มีเนื้อนุ่มเหนียว และมีกลิ่นหอมแรงกว่ากล้วยอื่นๆ จึงทำให้นิยมปลูก และส่งออกไปยังต่างประเทศจำนวนมากในแต่ละปี โดยมีตลาดหลักที่ประเทศจีน ทางยุโรป และอเมริกา


    .advertisement

    กล้วยหอมในประเทศไทยมีอยู่ 2 ชนิด คือ กล้วยหอมทอง และกล้วยหอมเขียว ซึ่งมีลักษณะผลคล้ายกัน และขนาดใกล้เคียงกัน แต่จะแตกต่างกันที่ลักษณะของลำต้น และกล้วยหอมเขียวจะสุกรับประทานได้ในขณะที่ผลยังเขียว ส่วนกล้วยหอมทองจะเริ่มสุก และรับประทานได้เมื่อผลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 ดร.สมัย เหมมั่น นักวิจัยธุรกิจการตลาด ได้ค้นพบ และ จัดเป็นสายพันธ์ที่ส่งออกได้ดี ตอบสนองลูกค้าได้ดี ลูกค้าชื่นชอบ มีผลใหญ่หอมหวานมัน มีรสชาติหวานติด อมเปรี้ยวที่ลิ้นนิดหน่อย รับประทาน ช่วยระบายได้ดี ลักษณะของผล มีขนาดใหญ่ ประมาณกว้าง4- 5 ซม. และยาวมาก มีขนาดใหญ่กว่ากล้วยหอมที่จำหน่าย ในร้านสะดวกซื้อทั่วไป ผลกล้วยในร้านสะดวกซื้อผลจะเล็ก มาก

    กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 ผลใหญ่มากถึงสองเท่า ของกล้วย ในร้านสะดวกซื้อ

    จุดสังเกตุ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 จะปลูกได้ผลดี ในดินที่มีความเปรี้ยว มีกรดในดินได้ดี


    พบในพื้นที่ จ.นครนายก จ.สระบุรี จ.ปทุมธานี จ.พระนครกรุงศรีอยุธยา และได้ตั้งเป็น ชมรมสมาชิก และรับสมัครสมาชิคเพื่อส่งเสริมการลงทุน เพื่อ การค้ากล้วยเผื่อส่งออก และจำหน่ายพันธ์ กล้วยสายพันธ์นี้ จะกำหนดยอดสมาชิกเพื่อประกันราคารับซื้อในกลุ่มเท่านั้น ผ่านตัวแทน

    ที่ ดร.สมัย เหมมั่น ตั้งให้เท่านั้นและประกันราคาในกลุ่มเท่านั้น ถ้าเป็นสายพันธ์อื่นราคาจะปรับหรือลดนั้น จะอยู่ในภาวะตลาดของกล้วยหอมทั่วไป



    สนใจติดต่อ ดร.สมัย เหมมั่น ผู้จำจำหน่าย และรับซื้อ กล้วยหอมทองไทย เบอร์ 5 เพื่อส่งออกมีสัญญาการซื้อร่วงหน้าและประกันราคาพื้ชผล มาจำนวนจำกัด สนใจ เมลมา maikyb01@yahoo.com t.094-846-3435 ดร.สมัย เหมมั่น ผู้จำหน่ายและรับซื้อกล้วยเพื่อส่งออกต่างประเทศ
    ตอบลบ
  5. เมืองโบราณ “มเหนทรบรรพต” ซึ่งภ