Sign the mou support business cooperation.
TSP smart city group concept Smart City is a city that uses technology and innovation to provide people with a quality of life and sustainable happiness. Thailand is pushing Smart City to realize the National Economic Development Plan. Currently, the private sector supports the policy of housing development with special features. It is a Smart City Full-time project in response to the government's policy to invest in housing development that is effective for Thai elderly businesses in the region of EEC
Sign the mou support business cooperation. We will join hands and walk together. First, change the product and concept to support each other forever.
TSP smart city group Sign the mou support business cooperation. concept Smart City is a city that uses technology and innovation to provide
โครงการสตาร์เกท (Project Stargate)
กองกำลังเอสเปอร์! 'สตาร์เกท' โครงการลับของอเมริกา ( สร้างหนัง) ระครนครับ ที่หวังสร้างหน่วยพลังจิตเพื่อใช้ตาทิพย์ล้วงข้อมูลข้าศึก โครงการสตาร์เกท (Project Stargate) เริ่มเปิดโครงการครั้งแรกในปี 1978 ที่ฐานทัพในรัฐแมรีแลนด์ เป็นโครงการลับสุดยอดภายใต้การดูแลของหน่วยข่าวกรองฝ่ายกลาโหมสหรัฐฯ (DIA) มีวัตถุประสงค์ในตามหาบุคคลที่เชื่อว่ามีพลังเหนือธรรมชาติหรือมีพลังจิตมาใช้ประโยชน์ทางการทหารอย่างจริงจังอยู่หลายสิบปีเลยทีเดียว โดยก่อนหน้านี้ในช่วงปี 1970 หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ได้รับข้อมูลมาว่าทางโซเวียตได้เปิดโครงการพัฒนาเกี่ยวกับ “พลังจิต” ขึ้นและได้หันมาสนใจเรื่องเหนือธรรมชาติอย่างจริงจัง ทำให้ทางสหรัฐฯ เร่งทำการศึกษาเกี่ยวกับพลังจิตอย่างจริงจัง ต่อมารัฐบาลสหรัฐฯ จึงมอบงบประมาณก้อนโตมาให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทำการจัดตั้งและเฟ้นหาผู้มีพลังจิตมาเข้าโครงการเพื่อใช้ในทางการทหารอย่างเป็นทางการ ต่อมาเมื่อโครงการนี้เปิดขึ้นมนุษย์ที่มีพลังจิตก็ถูกเชิญให้เข้าร่วมให้เข้ามาร่วมในโครงการนี้ หนึ่งในนั้นคือ Uri Geller นักทำนายชาวอิสราเอล ที่ถูกนำตัวมาทดสอบที่ศูนย์วิจัยสแตนฟอร์ด แต่เพื่อความแม่นยำเจ้าหน้าที่ได้ทำการทดสอบพลังจิตของ Uri โดยการให้วาดภาพ เหมือนภาพที่เตรียมเจ้าหน้าที่เตรียมเก็บไว้อยู่อีกห้องหนึ่ง ซึ่ง Uri Geller ก็สามารถวาดได้ใกล้เคียงอย่างไม่น่าเชื่อทำให้เขาได้เป็นหนึ่งในโครงการสตาร์เกท กลุ่มผู้มีพลังจิตหลายคนถูกนำมาใช้เพื่อบอกสถานที่อยู่ห่างไกล หรือ ฐานทัพของฝ่ายข้าศึกในช่วงสงครามเย็นหลายครั้ง หนึ่งผู้มีพลังจิตของโครงการนี้เคยอ้างว่า เขาเห็นสิ่งก่อสร้างบนดาวอังคารและดวงจันทร์ที่ไม่รู้จักตั้งอยู่ด้วย แม้จะดูเป็นเรื่องที่ไร้สาระ แต่โครงการนี้ก็ยังเคยถูกนำมาใช้บอกฐานทัพและกับดักของฝ่ายข้าศึกในสงครามเวียดนามมาแล้ว ซึ่งส่งผลดีต่อความเชื่อและกำลังใจของทหารอเมริกันอย่างมาก และภารกิจต่างๆ ของทหาร ใช้ในสำหรับสอดส่องแหนมชาติๆ ด้วยหน่วยพลังจิตนี้มาตลอดหลายปี ก่อนถูกโยกอำนาจการดูแลให้กับหน่วยสืบราชการลับสหรัฐฯ (CIA) ดูแลต่อ ต่อมา หนึ่งในอดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอที่เคยร่วมโครงการสตาร์เกท ได้ออกมาแฉเรื่องราวของหน่วยพลังจิตที่รัฐบาลสหรัฐฯ สร้างขึ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก แม้ในตอนแรกจะมีเพียงบางกลุ่มที่เชื่อว่าโครงการนี้เคยมีอยู่จริงๆ แต่ด้วยหลักฐานเกี่ยวกับโครงการนี้มีน้อยมาก จนกระทั่งในปี 1995 หลังเจ้าหน้าที่ CIA ได้ทำการประเมินผลงานของโครงการนี้อย่างจริงจัง พวกเขาพบว่ามันไม่ได้สร้างผลงานเป็นชิ้นเป็นอันให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ เลย โครงการสตาร์เกทจึงถูกยุบไปในที่สุด และเอกสารของโครงการดังกล่าวก็ถูกนำมาเปิดเผยต่อสาธารณะในปีเดียวกันนั้น ตามข้อบังคับการเผยแพร่ข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อประชาชนในปีเดียวกันนั้นเอง
รถไฟหายเข้าไปในอุโมงค์อย่างลึกลับถึง ๔๒ ปี...
จู่ๆโผล่ออกมาทุกคนอายุเท่าเดิม...
...เรื่องประหลาดนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอิตาลี บรรดาเจ้าหน้าที่รัฐบาลพากันปิดปากเงียบ ที่ขบวนรถด่วน
ขบวนหนึ่งพร้อมกับผู้โดยสารหายลึกลับอย่างไร้ร่องรอย ขณะเคลื่อนเข้าไปในอุโมงค์แห่งหนึ่งเมื่อปี
พ.ศ.๒๔๙๒ แล้วจู่ๆโผล่ออกมาอีกในสภาพเดิมทุกอย่าง เมื่อต้นปีนี้คือ พ.ศ.๒๕๓๕...
...ที่ประหลาดยิ่งขึ้น ผู้โดยสารจำนวน ๑๒๐ คน และพนักงานประจำรถ ๓ คน มีอายุเท่ากับวันที่หายเข้า
ไปในอุโมงค์ไม่มีใครแก่อายุมากขึ้นสักวันเดียว รูปร่างเหมือนเดิมทุกอย่าง และพวกเขายังเชื่อว่า...
ทุกวันนี้ยังเป็น พ.ศ. ๒๔๙๒ อยู่...
...รัฐบาลอิตาลีเก็บเรื่องนี้เงียบที่จะพูดถึงขบวนรถด่วนหมายเลข เอฟ ๖๒๖ และยังไม่ยอมพูดถึงว่า...
เอาขบวนรถนั้นไปไว้ที่ไหนด้วย ไม่ใช่แต่เพียงเท่านั้น ยังคอยจับตาผู้โดยสารทุกคนเว้นแต่มี ๒ คน...
ที่เป็นชาวต่างประเทศหลบหนีการสอบสวนไป ส่วนพนักงานประจำรถ ๓ คน รัฐบาลได้เก็บตัวไว้ใน...
สถานที่หนึ่ง ไม่ยอมเปิดเผยต่อสาธารณชน...
...ข่าวการหายไปของขบวนรถด่วน เอฟ ๖๒๖ หายลึกลับไป ๔๒ ปี และโผล่กลับมาอีกนั้น แม้ว่าทาง
การ พยายามปิดข่าว แต่หนังสือพิมพ์อิตาลีเกือบทุกฉบับสามารถที่จะติดตามมาเสนอได้ พยานทีได้
รับทราบเหตุการณ์ครั้งนี้เผย ตั้งแต่เริ่มต้นที่ขบวนรถด่วนนี้มีด้วยกัน ๑๓ โบกี้ หายเข้าไปในอุโมงค์...
รถไฟที่มีความยาว ๑ ใน ๔ ไมล์อย่างลึกลับไม่ยอมโผล่ออกไปอีกทางหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงปิดอุโมงค์ทำ
การค้นหา ซึ่งมีทั้งตำรวจและ นักวิทยาศาสตร์ โดยได้ค้นทุกตารางนิ้ว แต่ไม่พบร่องรอยแม้แต่น้อยว่า
มันหายไปได้อย่างไร รางถึงกับรื้อออกแล้วนำมาวางใหม่ เมื่อค้นหากันไม่พบทำให้หลายคนเชื่อว่า...
มนุษย์ต่างดาวได้ทำการโจรกรรมโขมยรถด่วนนี้ไป ตามรายงานของ นสพ.อุโมงค์ได้เปิดอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อปี ๒๔๙๓ ตั้งแต่นั้นมา แม้ว่าจะมีขบวนรถไฟผ่านไปมาเป็นพันขบวนก็ไม่มีอุบัติเหตุอันแปลก...
ประหลาดลี้ลับนั้นเกิดขึ้นอีกเลย...
...แต่อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ก็มีคนพยายามค้นหาขบวนรถด่วน เอฟ ๖๒๖ แต่ก็พบว่า
มีแต่ความว่างเปล่า บางคนถึงกับสรุปว่า รถขบวนนี้ถูกหุ้มห่อด้วยกาลเวลาและเดินทางไปสู่อนาคตอัน
ไกลพ้น...
เรื่องราวแบบนี้เคยเกิดขึ้นในสหรัฐ เรืออินเซอร่า ซึ่งเป็นเรือคุ้มครองเรือประจัญบานของกองทัพเรือสหรัฐ
จู่ๆก็หายอย่างลึกลับจากอู่เรือที่ฟิลาเดลเฟียในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ แต่แล้วจู่ๆก็ไปปรากฏตัวที่
ฐานทัพเรือนอร์ฟอร์ด ซึ่งทุกวันนี้ยังหาคำตอบไม่ได้...
...เมื่อรัฐบาลปิดข่าว หนังสืออิตาลีก็พยายามที่จะขุดค้นออกมา ในที่สุดหนังสือพิมพ์โรมเดลี่ที่ขายดีมาก
สามารถไปคว้าเอาเทปมาริโอ ฟรานซินี ช่างเครื่องรถไฟขบวนนี้มาตีแผ่ได้ ซึ่งมีดังนี้...
"ขณะที่ขบวนรถเคลื่อนเข้าไปในอุโมงค์นั้น ไม่นานนักก็มีหมอกสีขาวหนาลอยฟ่อง สมองรู้สึกปั่นป่วนไป
หมด จากนั้นก็หมดสติไม่รู้สึกตัว มาได้สติอีกครั้งหนึ่งเมื่อขบวนรถได้ออกจากอุโมงค์แล้ว เราคิดว่าเวลา
คงจะห่างกันไม่ถึงนาทีดี แต่ที่ไหนได้ เมื่อขบวนรถเรากลับมาถึงสถานีโบล้อคน่าถึงได้ทราบว่า ได้ห่างกัน
ถึง ๔๒ ปี นี่คือสิ่งเดียวที่เรารู้ "
...ผู้โดยสารอื่นๆก็ให้การคล้ายคลึงกันว่า มีหมอกลงจัดเมื่อเวลาเข้าอุโมงค์แล้วก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย...
...ผู้โดยสารขบวนรถด่วน เอฟ ๖๒๖ ซึ่งเป็นชาวต่างประเทศ ๒ คน ที่หลบการให้การคือ อดอล์ฟ โรเนอร์
เป็นชาวเยอรมันกับมาร์ติน บาร์ตเลตต์ ชาวแอฟริกาใต้ สำหรับโรเนอร์มีนักข่าวอิตาลีได้โทรศัพท์ไป...
หลอกถาม โดยอ้างว่าเป็นผู้โดยสารรถด่วนนั้นด้วยกัน...
...โรเนอร์ได้เล่าว่า ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปมาก ตอนที่เขาหายไปพร้อมกับขบวนรถไฟนั้นเขาอายุ ๓๐ ปี
มีลูกชายอายุ ๑๐ ขวบ " เดี๋ยวนี้ลูกชายผมอายุ ๕๒ ปีแล้ว อ้วนและเป็นโรคหัวใจ ส่วนภรรยาผมก็ย่างเข้า
๗๐ ปีแล้ว กำลังเป็นโรคเบาหวาน ส่วนผมกลับอายุเพียง ๓๐ ปี เท่านั้น เท่ากับเมื่อปี ๒๔๙๒ ...
...เรื่องราวเหล่านี้เป็นความลึกลับของโลกที่อธิบายได้ยาก ซับซ้อน น่าอัศจรรย์ใจ ต่อผู้ที่ได้รับฟัง
เป็นอย่างยิ่ง...
...และเรื่องนี้นับว่าเป็นปริศนาอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ ชวนติดตาม สืบเสาะ ค้นหาที่มาความเป็นมา
เป็นไป...สวัสดีครับ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น